หลายคนที่มีไฝบริเวณใบหน้าอาจเคยรู้สึกรำคาญใจ หรือไม่มั่นใจเวลาถ่ายรูป แต่งหน้า หรือแม้แต่ตอนเจอแสงไฟแรงๆ แล้วเห็นชัดจนรู้สึกว่าอยากเอาออกขึ้นมาทันที แต่พอเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ “การจี้ไฝ” ก็มักจะเจอคำถามสารพัด ทั้งเรื่องแผล รอยดำ ความปลอดภัย หรือแม้แต่กลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียงตามมาในระยะยาว
บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจี้ไฝบนใบหน้าว่าทำอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ทิ้งรอยแผล และเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองได้มากที่สุดค่ะ
ไฝบนใบหน้าเกิดจากอะไร?
ไฝ (Nevus) คือกลุ่มเซลล์เม็ดสีที่รวมตัวกันอยู่ในชั้นผิว มีได้ตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น แสงแดด ฮอร์โมน หรือพันธุกรรม
ไฝบางชนิดมีขนาดเล็กและสีจาง แต่บางชนิดอาจมีสีเข้ม ผิวไม่เรียบ หรือมีเส้นขนร่วมด้วย ซึ่งในบางกรณีอาจต้องสังเกตว่ามีลักษณะผิดปกติหรือไม่ เช่น ขอบไม่ชัด สีไม่สม่ำเสมอ หรือโตเร็วผิดปกติ ซึ่งต้องตรวจโดยแพทย์ก่อนทำการรักษา
แม้ว่าไฝส่วนใหญ่จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่บางครั้งก็มีไฝบางชนิดที่พัฒนากลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีไฝหลายจุด หรือมีไฝที่เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะไปจากเดิมมาก แนะนำให้เข้ารับการตรวจจากแพทย์ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ

จี้ไฝด้วยเครื่อง ELLMAN เทคนิคที่แม่นยำและปลอดภัย
ELLMAN (Electrosurgical Radiofrequency Device) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่นิยมใช้ในการจี้ไฝ ขี้แมลงวัน ติ่งเนื้อ หรือรอยโรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ โดยใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งต่างจากการใช้เลเซอร์หรือไนโตรเจนเหลว วิธีนี้มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงเครื่องนี้สามารถตัดเฉพาะเนื้อเยื่อเป้าหมายโดยแทบไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ช่วยให้แผลเล็ก ลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น และฟื้นตัวได้เร็วกว่าเทคนิคทั่วไป
ข้อดีของการจี้ไฝด้วยเครื่อง ELLMAN
- แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
คลื่น RF ของเครื่อง ELLMAN จะตัดเฉพาะเนื้อเยื่อเป้าหมายโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้แผลเล็ก หายไว และลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น - ลดเลือดออกขณะทำหัตถการ
RF สามารถห้ามเลือดไปพร้อมกับการจี้ จึงช่วยให้แผลแห้งและสะอาด - ไม่ต้องเย็บแผล
สำหรับไฝหรือขี้แมลงวันที่ไม่ลึกมาก การจี้ด้วย ELLMAN สามารถทำได้โดยไม่ต้องเย็บแผลหลังทำ - ใช้เวลาไม่นาน
หัตถการใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อจุด ขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของไฝ
ข้อควรรู้ก่อนจี้ไฝด้วย ELLMAN
- ควรให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตรวจไฝก่อนเสมอว่าเป็นไฝธรรมดาหรือไฝที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
- หลังจี้อาจมีสะเก็ดที่ตกได้ภายใน 7-10 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและการแคะเกาสะเก็ดเพื่อป้องกันรอยดำหลังแผลหาย
- บางกรณีอาจต้องทำซ้ำ หากไฝมีรากลึก
การดูแลตัวเองหลังจี้ไฝ
หลังทำการจี้ไฝ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้แผลหายเร็วและไม่ทิ้งรอย เช่น
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลในช่วง 1–2 วันแรก หรือจนกว่าสะเก็ดจะหลุด
- งดแกะหรือเกาแผลเด็ดขาด เพราะจะเสี่ยงเกิดแผลเป็นหรือรอยดำ
- ทาครีมบำรุงหรือยาตามที่แพทย์จัดให้อย่างสม่ำเสมอ
- ทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในร่ม เพราะรังสียูวีสามารถทำให้รอยดำเข้มขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรงในช่วงแรก และควรสวมหมวกหรือลงครีมซ้ำเมื่อต้องออกกลางแจ้ง

ใครไม่ควรจี้ไฝ?
แม้ว่าจะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีบางกรณีที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อน เช่น
- หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น โรคด่างขาว หรือสะเก็ดเงิน
- ผู้ที่มีประวัติเกิดแผลเป็นนูนง่าย
- ผู้ที่มีไฝที่กำลังเปลี่ยนรูปร่าง สี หรือขนาดอย่างรวดเร็ว
ใครที่กำลังลังเลว่าจะจี้ไฝดีไหม โดยเฉพาะไฝบริเวณใบหน้าที่มองเห็นชัด แนะนำให้เริ่มจากการเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไฝชนิดนั้นสามารถจี้ออกได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ และควรใช้วิธีใดถึงจะเหมาะกับผิวของเรา หากใครที่อยู่ในพื้นที่ภูเก็ตต้องการจี้ไฝบนใบหน้ ที่ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์เรียบเนียน ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานระดับสากล Phuket Skin Center พร้อมให้บริการด้วยเครื่อง ELLMAN ที่ทันสมัยพร้อมแนะนำวิธีดูแลผิวหลังจี้ไฝอย่างถูกต้อง ลดปัญหารอยดำหรือแผลเป็นหลังการรักษา