มีปัญหาผิวสิวขึ้นเยอะผิดปกติไม่รู้สาเหตุ หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาสิวที่ไม่หายขาด ไม่ว่าจะลองใช้ผลิตภัณฑ์อะไร สิวก็มักจะกลับมาใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะสิวติดสารหรือสิวสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย หรือที่เรียกว่าสเตียรอยด์ สารนี้อาจทำให้สิวหายไปชั่วคราว แต่เมื่อหยุดใช้ สิวจะกลับมามากกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาว บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของสิวติดสาร สิวสเตียรอยด์ และวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผล เพื่อให้ผิวหน้าของคุณกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
สิวติดสารและสิวสเตียรอยด์ เกิดจากอะไร?
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวติดสารและสิวสเตียรอยด์คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ซึ่งมักพบได้ในครีมบำรุงผิวที่อวดอ้างว่าช่วยให้ผิวหน้าขาวใสอย่างรวดเร็ว ครีมเหล่านี้อาจให้ผลลัพธ์ที่ดูดีในช่วงแรก เช่น ผิวขาวขึ้น ลดรอยดำ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ จะส่งผลให้ผิวหน้าบางลง อ่อนแอ และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ทำให้เกิดสิวขึ้นง่าย
สารอันตรายในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
นอกจากสเตียรอยด์แล้ว ยังมีสารเคมีอันตรายอื่นๆ ที่พบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไฮโดรควิโนน ปรอท และกรดวิตามินเอ ที่มักถูกใส่ในครีมบำรุงผิวเพื่อให้เห็นผลเร็ว แต่ผลที่ตามมาคือสารเหล่านี้ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและทำให้สิวขึ้นมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ในระยะยาว
สิวติดสารและสิวสเตียรอยด์มีลักษณะอย่างไร?
- สิวสเตียรอยด์
สิวสเตียรอยด์มีลักษณะเป็นสิวผด สิวอักเสบ หรือสิวหัวหนอง มักจะกระจายทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่ใช้ครีมสเตียรอยด์เป็นประจำ ผิวหน้ามักมีลักษณะแดง อ่อนแอ และบางลง หากสัมผัสจะรู้สึกถึงความบอบบางของผิว รวมถึงอาจมีการลอกเป็นขุยได้
- สิวติดสาร
สิวติดสารมักเกิดขึ้นหลังจากหยุดใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตราย สิวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง มักมีสิวผดเล็กๆ ขึ้นทั่วหน้าและเป็นสิวอักเสบได้ง่าย นอกจากนี้ ผิวมักมีลักษณะหมองคล้ำ และมีรอยดำที่รักษาได้ยาก
วิธีรักษาสิวติดสารและสิวสเตียรอยด์
1. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือสารเคมีอันตราย ตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ หากพบสารเหล่านี้ควรหยุดใช้และเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวแทน
2. ดูแลผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง เช่น โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน หรือคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย การล้างหน้าเพียงวันละสองครั้งและไม่ขัดถูใบหน้าแรงๆ จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
3. หลีกเลี่ยงแสงแดดและสารเคมี
ผิวที่ติดสารและสเตียรอยด์จะไวต่อแสงแดดและสารเคมีต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีสารเคมีอันตรายหรือสารกันเสียที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองเพิ่ม
4. รักษาภายใต้คำแนะนำของแพทย์
หากสิวติดสารหรือสิวสเตียรอยด์รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม แพทย์จะจ่ายยาทาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะหรือยาควบคุมการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้แพทย์อาจใช้เทคนิคเลเซอร์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น
5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว
หลังจากสิวเริ่มดีขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีสารเคมีรุนแรงและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย การบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอจะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและปลอดภัยต่อผิว
6. การรักษาด้วยเลเซอร์
เลเซอร์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าที่ติดสารและสิวสเตียรอยด์ การใช้เลเซอร์จะช่วยลดรอยแดง รอยดำ และช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น เลเซอร์ที่นิยมใช้ในการรักษาสิวติดสารคือเลเซอร์ Spectra ซึ่งมีความสามารถในการรักษาผิวที่มีปัญหาสิวและรอยแดงได้ดี
สิวติดสารและสิวสเตียรอยด์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอันตรายหรือสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ส่งผลให้ผิวหน้าบอบบางและเกิดสิวได้ง่าย เพื่อป้องกันการเกิดสิวติดสารและสิวสเตียรอยด์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีข้อมูลหรือผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าช่วยให้ผิวขาวใสภายในระยะสั้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังหรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ และบำรุงผิวให้แข็งแรง รวมถึงปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ปรึกษาปัญหาผิวต้องที่ Phuket Skin Center ที่นี่มีเทคโนโลยีการรักษาสิวที่ทันสมัย ภูเก็ตสกินเซ็นเตอร์พร้อมให้คำแนะนำและดูแลผิวของคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่สดใสและสุขภาพดีอีกครั้ง