โบกับแฟตต่างกันอย่างไร? เลือกฉีดแบบไหนดี?

ปัญหาหน้าบาน ดูขาดมิติ กรอบหน้าไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่เพราะแก้มเยอะหรือกรามใหญ่ แล้วควรเลือกแก้ไขด้วยหัตถการไหนระหว่าง “ฉีดโบ” หรือ “ฉีดแฟต” ที่จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลงได้ เพราะทั้ง 2 หัตถการนั้นมีกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน เรามาทำเข้าใจกับหัตถการเหล่านี้ไปด้วยกันดีกว่าว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกฉีดตัวไหนถึงจะช่วยแก้ไขรูปหน้าให้เรียวลงได้

โบ-ท็อกคืออะไร?

โบ-ท็อก (Bo-tox) คือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ที่ทำหน้าที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัวลง ช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กขึ้น การฉีดโบจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น บริเวณหน้าผาก หางตา หรือขมวดคิ้ว รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยการลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง

ฉีดโบเหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขยับของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยตีนกา หรือรอยยิ้มที่เห็นชัดเมื่อแสดงสีหน้า และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น หรือลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อให้ได้ใบหน้าที่ดูเรียว ได้สัดส่วนมากขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบ

ผลลัพธ์ของการฉีดโบจะเห็นชัดเจนหลังจากฉีดประมาณ 3-7 วัน และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและการดูแลตัวเองหลังจากการฉีด ซึ่งเมื่อหมดฤทธิ์แล้วกล้ามเนื้อจะกลับมาเคลื่อนไหวตามปกติ

แฟตคืออะไร?

แฟต (Mesotherapy Fat) เป็นวิธีลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดด้วยการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง สารเหล่านี้จะเข้าไปทำหน้าที่สลายไขมันและขับออกจากร่างกายทางระบบขับถ่าย ทำให้บริเวณที่ฉีดมีความกระชับขึ้น ซึ่งแฟตมักใช้เพื่อลดไขมันบริเวณแก้ม เหนียง คาง หรือจุดที่ไขมันสะสม

แฟตเหมาะกับใคร

การฉีดแฟตเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมในบริเวณเล็กๆ บนใบหน้า เช่น แก้มที่ดูอูม หรือมีเหนียงบริเวณคาง และต้องการลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย แฟตยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนใบหน้าให้ดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศัลยกรรม

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดแฟต

หลังจากฉีดแฟตจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยความเปลี่ยนแปลงจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่สะสม การฉีดแฟตเพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคน จึงอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความแตกต่างระหว่างโบและแฟต

โบและแฟตมีคุณสมบัติการใช้งานที่ต่างกันอย่างชัดเจน โบเน้นการลดริ้วรอยและปรับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ลดขนาดกราม ยกกระชับ หรือทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าหายไป ส่วนแฟตเน้นการสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณเฉพาะจุด เช่น แก้มและเหนียง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้น

แล้วเลือกฉีดแบบไหนดี?

ถ้าต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้าหรือปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เช่น ลดขนาดกราม ยกกระชับคิ้ว หรือแก้ไขริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ แนะนำให้เลือกโปรแกรมฉีดโบท็อกเพราะสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นๆ ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและยกกระชับขึ้นได้

และหากคุณมีปัญหาหน้าอ้วน แก้มใหญ่ หรือมีไขมันสะสมบริเวณคางที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย แนะนำให้เลือกฉีดแฟตเพื่อลดไขมันในจุดที่กังวล เพราะแฟตช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดได้ดี ทำให้รูปหน้าดูเรียวและกระชับขึ้นอย่างชัดเจน

ฉีดโบกับแฟตพร้อมกันได้ไหม?

สามารถฉีดพร้อมกันได้ เพราะตัวยาทั้ง 2 นั้นออกฤทธิ์กันคนละแบบและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน หากอยากปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัด แนะนำให้ฉีดแฟตและโบคู่กันจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนที่สุด โดยโบจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามคลายตัวและมีขนาดเล็กลง ส่วนแฟตจะช่วยสลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียงให้ลดลง ใบหน้าจะเรียวเล็กได้รูป รูปหน้าดูเฟิร์ม เริ่มเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น

โบและแฟตต่างก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในแบบของตัวเอง การเลือกฉีดโบช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ในขณะที่แฟตเน้นการสลายไขมันให้ดูเล็กลง การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน หากต้องการลดริ้วรอยและปรับโครงหน้า ฉีดโบจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าต้องการลดไขมันที่แก้มและเหนียง แฟตจะตอบโจทย์มากกว่า

หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเลือกฉีดโบหรือแฟตดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณมากที่สุด ที่ Phuket Skin Center เรามีแพทย์ที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ