อยากรักษาฝ้าบนใบหน้า แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกวิธีไหนดี? ซื้อครีมมาทาเอง หรือเข้าคลินิกรักษาดีกว่ากัน? แต่ถ้าเข้าคลินิกก็แพงไปอีกเมื่อเทียบกับการซื้อครีมมาทา ถึงอย่างนั้นแล้วทาครีมแล้วฝ้าจะหายจริงตามคำเคลมไหม? วันนี้เรามาดูกันว่ารักษาฝ้าแบบไหนดีกว่ากัน?
ทำความรู้จักกับปัญหา “ฝ้า” บนใบหน้า
ฝ้า หรือ melasma เป็นปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด เช่น ภูเก็ต ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานยา ฮอร์โมน การตั้งครรภ์ หรือการสัมผัสแสงแดดมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนัง ส่งผลให้เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าขึ้นมา
ลักษณะของฝ้า
ฝ้ามักปรากฏเป็นจุดด่างดำหรือรอยแดงคล้ำที่บริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก ที่ขมับ ปัญหาดังกล่าวมักเกิดขึ้นทั้งใบหน้าหรือเป็นจุดๆ ก็ได้ และอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่แตกต่างกันไป

วิธีรักษาฝ้าบนใบหน้า
ว่าด้วยเรื่องของการรักษาฝ้า อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าสามารถรักษาได้ทั้งการทาครีมด้วยตัวเองและการรักษาโดยแพทย์คลินิก แต่วันนี้เรามาดูกันว่ารักษาแบบไหนจะเห็นผลดีกว่ากัน
การรักษาฝ้าด้วยครีม
ครีมรักษาฝ้าเป็นวิธีที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยมักประกอบด้วยสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เช่น ไฮโดรควิโนน ไตรเอทานอลามีน หรือกรดไกลคอลิก ซึ่งจะช่วยลดความเข้มของฝ้าลงได้ ข้อดีคือสะดวก ราคาไม่แพง แต่อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลชัดเจน และอาจมีผลข้างเคียงเช่น การระคายเคืองผิว
การรักษาโดยเข้าพบแพทย์ที่คลินิก
การไปพบแพทย์ผิวหนังเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยแพทย์จะประเมินสาเหตุและความรุนแรงของฝ้า แล้วจึงแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น ใช้ครีมหรือยาทาที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน, ใช้เครื่องมือทางการแพทย์เช่นเลเซอร์ฝ้า หรือฉีดสาร hydroquinone หรือ corticosteroid เข้าไปโดยตรง ข้อดีคือได้รับการรักษาที่ตรงจุด แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการรักษาฝ้าด้วยครีม และรักษาฝ้าที่คลินิก
ข้อดีของการรักษาฝ้า ด้วยครีม
- สะดวกสบาย สามารถทำได้เองที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปคลินิก
- ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า โดยทั่วไปแล้ว ครีมบำรุงจะมีราคาถูกกว่าการรักษาที่คลินิก
ข้อเสียของการรักษาฝ้า ด้วยครีม
- ผลลัพธ์ช้า ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ไม่เหมาะกับฝ้าลึก ครีมบำรุงอาจไม่สามารถรักษาฝ้าที่ฝังลึกได้
- ต้องใช้ระยะเวลานาน ต้องใช้ครีมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
- อาจมีอาการแพ้ บางคนอาจแพ้ส่วนผสมในครีมได้

ข้อดีของการรักษาฝ้า ที่คลินิก
- เห็นผลเร็ว การรักษาด้วยเลเซอร์หรือพลังงานแสงอื่นๆ จะเห็นผลได้เร็วกว่าการใช้ครีม
- รักษาฝ้าได้ทุกชนิด สามารถรักษาฝ้าได้ทุกชนิด ทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก และฝ้าเรื้อรัง
- มีแพทย์ดูแล มีแพทย์คอยให้คำแนะนำและดูแลการรักษา
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน หากรักษาอย่างถูกวิธี ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน
ข้อเสียของการรักษาฝ้า ที่คลินิก
- ค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่คลินิกค่อนข้างสูง
- มีผลข้างเคียง การรักษาบางวิธีอาจมีผลข้างเคียง เช่น ผิวแดง ร้อน หรือบวม
- ต้องใช้เวลามาคลินิก ต้องเสียเวลาเดินทางมาคลินิกเพื่อทำการรักษา

การจัดการกับปัญหาฝ้าบนใบหน้าสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการใช้ครีมรักษาด้วยตัวเอง หรือการไปพบแพทย์ ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากคุณกำลังประสบปัญหาฝ้าและอาศัยอยู่ในพื้นที่ ภูเก็ต คุณสามารถเริ่มจากใช้ครีมรักษาด้วยตัวเอง แต่หากยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน ก็ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากคุณกำลังประสบปัญหาฝ้า และต้องการคำแนะนำจากแพทย์ สามารถติดต่อ Phuket Skin Center ได้ที่ คลินิกรักษาฝ้า ภูเก็ต เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ